เอแคลร์ จือปาก เผยอาการป่วยหลังถูกลือแรงเป็นมะเร็ง ต้องกลืนสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ด

ยูทูบเบอร์สาวชื่อดังแก๊ง หิ้ว หวี “เอแคลร์ จือปาก” มาร่วมงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง “วัยเป้ง นักเลงขาสั้น 2” ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงอาการที่ถูกลือแรงว่าเธอเป็นมะเร็ง

โดยเธอเผยว่า “ขึ้นเป็นคำค้นหาในติ๊กต๊อกเลยค่ะว่า เอแคลร์ป่วยเป็นอะไร และให้กำลังใจเอแคลร์กันเยอะมาก คือหนึ่งในท๊อปปิกที่มันเป็นประเด็นหลักเลยอ่ะคือคิดว่า เอแคลร์เป็นมะเร็ง เอแคลร์ไม่ได้เป็นนะคะ ขอแจ้งตรงนี้ คือเอแคลร์ป่วยเป็นเกี่ยวกับกล่องเสียง คือหลายคนน่ะชอบเพลงเมล่อนมากๆ ชมว่าทำไมเสียงเอแคลร์มันบอยมันสนุกเหมือนผู้ชายร้องเลย คือไม่ค่ะ วันที่ไปอัดเสียงอ่ะคือเริ่มมีปัญหากล่องเสียงแล้ว เป็นเสียงแหบเหมือนผู้ชายร้อง แต่จริงๆอ่ะกล่องเสียงมันอักเสบซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่เราไลฟ์สด คือสองปีที่ผ่านมา เอแคร์ทำแบรนด์แล้วเราอ่ะจะต้องไลฟ์สดขายของตลอดเวลา ไลฟ์สองปีเต็ม ไลฟ์เกือบทุกวัน เพราะฉะนั้นเส้นเสียงของเอแคลร์มันไปหมดแล้ว เราอ่ะรู้มาโดยตลอดเวลาจบไลฟ์อ่ะ เสียงเราจะหายเลยนะ เราก็จะมีโอกาสได้พักหนึ่งวัน ซึ่งก็แทบจะไม่ได้พัก เพราะว่าตื่นมาอีกวันนึงก็ถ่ายใน YouTube ต่อ มะรืนปุ๊บก็ต้องไลฟ์สดใหม่ เป็นอย่างนี้วนมาสองปี จนล่าสุดจนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แล้ว ปกติอ่ะถ้าเราพักหนึ่งคืนเราก็จะกลับมามีเสียงแต่ว่าอาจจะแหบๆ แต่หลังๆมากลายเป็นคนไม่มีเสียงพูดออกมา พูดออกมาเป็นเสียงลม ก็เลยคิดว่าเฮ้ยไม่ได้แล้วนะ ก็เลยไปปรึกษาคุณหมอตั้งแต่ช่วงเดือนที่แล้วมีการให้คุณหมอดูแลการจ่ายยาแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น
ล่าสุดไปหาหมอใหม่อีกรอบหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนการรักษาเป็นการกลืนสเตียรอยด์วันล่ะ12 เม็ด คือมันเยอะมากเลยนะการกินยาวันละ 12เม็ดต่อวัน ต้องงดหวาน ต้องงดทำหลายอย่างมาก

ข้อเสียของการกลืนสเตียรอยด์คือมันมีแน่นอน แล้วมันต้องมีอาการอื่นตามมา สิ่งที่หนูจะต้องทำก็คือต้องช่วยหมอด้วย คือการงดพูดหนึ่งเดือน หนูเกือบเป็นบ้า หนึ่งเดือน! แต่หนูต้องทำเพราะว่าถ้าไม่ทำก็จะไม่หาย เดือนที่ผ่านมาหนูพูดน้อยมาก ก็จะคือพึ่งจะกลับมาพูดวันนี้วันแรกเหมือนกัน

คือมันก็อึดอัด เราอยากพูดสื่อสารแต่ว่าทำไม่ได้ ถ้าพูดถึงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่หนูงดพูด หนูทำได้แค่ 40% ก็ยังมีแอบพูด โดยเฉพาะ 31 ตุลาคมนี้ หนูมีคอนเสิร์ตของหิ้วหวีที่เป็นปาร์ตี้ด้วย ปรากฏว่าหนูไม่มีเสียงเลย ไม่มีเสียงจะไปซ้อม ไปอัดเพลง นั่นหมายความว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้หนูต้องร้องสด หนูต้องเก็บตั้งแต่วันนี้ไปอีก7วัน เก็บเสียงพูดเลยเพื่อไปร้องในคอนเสิร์ต”

กระทบต่องานอย่างไรบ้าง?
“กระทบ เพราะว่าปกติหนูเป็นคนที่ทำงานสามสี่งานต่อวันได้เลย ตอนนี้ก็ต้องเปลี่ยนเป็นแบบไม่รับเลย ต้องหยุดอยู่บ้านปิดวาจา (เพื่อนแหย่ไหม?) เพื่อนก็พยายามชวนเราคุย แต่จริงๆอ่ะเขาก็รู้ว่าเราต้องการรักษาจริงๆ ก็แนะนำเอายาจีนไหม ล่าสุดอ่ะคือมีวางแผนจะไปฝังเข็มแล้ว ศาสตร์จีนไปเลย ก็คือเห็นพี่มดดำไปทำก็เลยอยากจะไปลอง ส่วนคนที่บ้านก็เข้าใจพยายามจะไม่ชวนเราคุยเท่าไหร่
แล้วคือหวานก็กินไม่ได้ ขนมก็กินไม่ได้ เผ็ดก็กินไม่ได้ คือรู้ไหมจริงๆอ่ะหนูเป็นคนไม่กินเผ็ด แต่พอหมอห้ามกินเผ็ด หนูอยากกินใหญ่เลย อยากกินยำอยากกินอะไรเลย ไปกินซูชิมาหนูไปกินวาซาบิ 3-4 ห่อเพื่อให้มันเผ็ด มันอยากมาก

ส่วนการรักษาตอนนี้ก็คือการทานยาประกอบการเงียบ ก็คือเงียบเลย ถ้าเงียบได้ก็คือหายเลย หมอใช้คำว่า ถ้าพูดแล้วไม่ได้ตังค์ไม่ต้องพูดนะ คือตอนนี้ก็ลดงาน70% เลย ก็ต้องยอม เพราะว่าเราก็ต้องเก็บเสียงเพื่อระยะยาว ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนที่ไม่มีเสียงเลย”

อย่างในแก๊งเรา ตูน หิ้วหวี ก็เพิ่งเจอมะเร็ง?
“ค่ะ กรุบกริบ น่ารัก กะเทยก็ให้กำลังใจกัน ก็เรียกได้ว่าตุลาคมเป็นช่วงที่กะเทยชอบป่วย เป็นเรื่องของการนิยม ตุลาคมของทุกปี คือหนึ่ง กะเทยชอบป่วย และกะเทยชอบเลิกกับผัว ยอดนิยมเลยช่วงนี้ แต่ก็ต้องให้กำลังใจกัน”

ตอนแรกที่รู้เพื่อนเจอมะเร็ง?
“ถ้าย้อนกลับไปเรื่องของพี่ตูน วันแรกที่หนูรู้คือวันแรกที่เขาพิมพ์มาในกลุ่ม LINE เราก็แบบ ปึ้ง! ใจสั่นมาก กลัวมาก อุ๊ย ขึ้นชื่อว่ามะ ยังไงก็ ปัง เลยแกล้งบอกว่า แค่นี้เอง ก็แกล้งไปอย่างนั้นพูดให้เขาไม่กลัว แต่จริงๆเรากลัวเหมือนกัน ก็มองเป็นพลังบวก ( คือด้วยความที่ผ่านมาพวกเราทำงานหนัก?) มากๆ ก็ต้องพักผ่อนบ้างเลย”

แต่ถ้ามีงานที่เราสนใจติดต่อมา เราจะทำยังไง?
“รับค่ะ(หัวเราะ) ก็รับอยู่ แต่คืออยากเตือน เสียงเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ หนูเองก็ถือว่าเป็นคนที่พอมีเสียงอยู่ ถึงแม้ว่าจะต้องหยุดพูดด้วยตัวเอง แต่ก็รู้สึกว่ามันลำบากมากเลย เพราะว่ามนุษย์อ่ะมันสัตว์สังคมที่จะต้องสื่อสารกับคน แล้ววันนึงมันไม่มีโอกาสได้พูดมันพูดไม่ได้มันทรมานมาก เพราะฉะนั้นพยายามรักษาเส้นเสียงตัวเอง นอนให้เยอะ กินน้ำให้เยอะ มันก็จะเป็นการที่ช่วยในการรักษาเส้นเสียงได้”