จากวิดีโอที่ให้มา สามารถสรุปและเขียนเป็นเรียงความภาษาไทยประมาณ 150 บรรทัดได้ดังนี้ (เนื้อหาจะเน้นไปที่ประเด็นสำคัญและขยายความเพื่อให้ได้ความยาวตามที่ต้องการ):
ทีมชาติไทย vs ทีมชาติเวียดนาม: บทสรุปก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ เลกสอง
การแข่งขันฟุตบอลเอเซียนคัพ 2024 นัดชิงชนะเลิศ เลกสอง ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติเวียดนาม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร กำลังจะมาถึง บรรยากาศก่อนเกมเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวังจากแฟนบอลทั้งสองชาติ ตั๋วเข้าชม 47,000 ที่นั่งขายหมดเกลี้ยง แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างล้นหลาม
ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของ อิชิอิ มาซาทาดะ โค้ชชาวญี่ปุ่น ตั้งเป้าที่จะกลับมาอย่างแข็งแกร่งในบ้านของตนเอง ด้วยแรงเชียร์จากแฟนบอลชาวไทย อิชิอิมีเหตุผลหลายประการที่จะต้อง “ใส่หมดหน้าตัก” ในเกมนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะส่ง เพรอดอน แบ็คขวาตัวหลักกลับมาลงสนาม เพรอดอนโชว์ฟอร์มได้อย่าง
โดดเด่นในรอบรองชนะเลิศ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะหมดแรงและได้พักในเกมนัดแรก คนที่ลงเล่นแทนเขาอย่าง พีรวิชญ์ และ ภานุวัฒน์ ไม่สามารถสร้างความประทับใจได้มากนัก โดยเฉพาะพีรวิชญ์ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรกหลังจากพยายามเข้าสกัด ซอน ซอน
การกลับมาของเพรอดอนจะช่วยสนับสนุน เบนจามิน เดวิส กองกลางตัวรุกคนสำคัญของทีมชาติไทย เบนจามิน เดวิส แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และทักษะที่ยอดเยี่ยม และเป็นผู้เล่นที่อันตรายสำหรับทีมชาติเวียดนาม เขาเป็นผู้เล่นที่เคลื่อนที่มากที่สุดในเกม แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่กระฉับกระเฉงในแดนกลาง ด้วยความสามารถในการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุก เห็นได้ชัดว่าทีมชาติไทยที่มีและไม่มีเดวิสแตกต่างกันอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเบนจามิน เดวิส ในสิงคโปร์ เขาถูกมองว่าเป็น “อาชญากร” เรื่องราวนี้มาจากการตัดสินใจของครอบครัวของเขา เดวิสเกิดที่ภูเก็ต ประเทศไทย แต่เติบโตในสิงคโปร์ เขามีพ่อเป็นชาวอังกฤษและแม่เป็นชาวไทย
ครอบครัวของเดวิสย้ายไปสิงคโปร์ตั้งแต่อายุยังน้อย เดวิสได้รับสัญชาติสิงคโปร์ ที่นั่นเขาเรียนและใช้ชีวิตอยู่เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นวิธีที่พ่อของเขามอบสภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่ดีให้เขา แต่การตัดสินใจนี้กลับนำมาซึ่งปัญหาสำหรับเดวิสในภายหลัง
ตามกฎหมายของสิงคโปร์ ชายสัญชาติสิงคโปร์เมื่ออายุ 18 ปีจะต้องเข้ารับราชการทหาร แต่เดวิสในวัย 18 ปี เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของเขากำลังเบ่งบาน ด้วยโอกาสที่จะได้เล่นในยุโรปกับสโมสรดังในอังกฤษ หากเขาเข้ารับราชการทหาร เขาจะสูญเสียโอกาสนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยง
พ่อแม่ของเดวิสได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เพื่อขอผ่อนผันการรับราชการทหาร โดยยกตัวอย่างของ โจเซฟ สคูลลิง นักว่ายน้ำที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิก 2016 แต่กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เห็นว่าผลงานของเดวิสยังไม่เพียงพอที่จะได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว
ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธทันที นั่นเป็นแรงผลักดันให้ครอบครัวของเดวิสย้ายออกจากสิงคโปร์ไปอาศัยอยู่ที่อังกฤษ เดวิสยังคงฝึกซ้อมที่ฟูแล่ม และในปี 2019 เขาถูกเลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับโอกาสลงสนาม เดวิสได้รับโอกาสฝึกฝนกับทีม U23 ฟูแล่ม ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนา
ควบคู่ไปกับสิ่งนั้น ครอบครัวของเดวิสได้ประกาศว่าเขาจะไม่กลับไปสิงคโปร์อีกต่อไป นักเตะดาวรุ่งเลือกที่จะเล่นให้กับทีมชาติไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยเล่นให้กับทีม U16 และ U19 ของสิงคโปร์ กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์จึงประกาศว่าเดวิสปฏิเสธการรับราชการทหารโดยไม่มีใบอนุญาตออกนอกประเทศที่ถูกต้อง
บทลงโทษสำหรับเขาคือปรับ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือจำคุก 3 ปี เดวิสทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารและต้องรับผิดทางอาญาด้วยโทษปรับสูงถึง 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี
เป้าหมายและวิธีการฉลองของนักเตะวัย 22 ปีคนนี้กับสิงคโปร์แสดงให้เห็นว่าเขาตัดขาดกับสถานที่ที่เขาผูกพันมาตลอด 14 ปี ปัจจุบันและอนาคตของเดวิสคือประเทศไทย แต่แน่นอนว่าวิธีที่เขาจากไปจะทำให้ชาวสิงคโปร์หลายคนรู้สึกถูกหักหลัง ในขณะที่ฝ่ายไทยเองก็อาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา นี่ไม่ใช่กรณีเดียวที่นักฟุตบอลหรือดารา กีฬาพร้อมที่จะสละสัญชาติสิงคโปร์เพื่อไม่ให้อาชีพของพวกเขาหยุดชะงักจากการรับราชการทหาร
ก่อนเกมนัดที่แล้ว บรรดานักเตะทีมชาติไทยต่างแสดงความมั่นใจอย่างมากเมื่อพบกับทีมชาติเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศ บางคนบอกว่าไม่รู้จัก เหงียน ซวน เซิน บางคนตั้งคำถามว่านักเตะเวียดนามกลัวที่จะพบกับทีมชาติไทยหรือไม่ แม้แต่หัวหน้าโค้ชของทีมชาติไทยก็ประกาศอย่างฮึกเหิมว่าจะเอาชนะทีมชาติเวียดนามทั้งสองเลก
ดูเหมือนว่าคนไทยรู้วิธีใช้ประโยชน์จากประเพณีเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับทีมของโค้ช ปาร์ค ฮัง-ซอ สำหรับพวกเขา เสียงจากอดีตเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงในเกมประวัติศาสตร์ พวกเขารู้ว่าเวียดนามไม่เคยชนะไทยในบ้านมาตลอด 27 ปี พวกเขาเชื่อว่าความหลอนจากอดีตเป็นโซ่ที่ผูกมัดนักเตะเวียดนาม ทำให้เราไม่สามารถประสบความสำเร็จในรอบชิงชนะเลิศได้
เราทราบดีว่านักเตะไทยมีความฉลาดแกมโกง พวกเขาเป็นทีมที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และรู้วิธีที่จะโจมตีอย่างเด็ดขาด เราเข้าใจว่าไทยเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งบนเส้นทางสู่จุดสูงสุดของทีมชาติเวียดนามในภูมิภาค
แต่เราไม่กลัวพวกเขา หลังจากที่ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดมาหลายครั้ง เราไม่อนุญาตให้ความพ่ายแพ้ต่อไทยมาทำลายความทะเยอทะยานของเรา และที่สำคัญกว่านั้น เราเข้าสู่เกมด้วยทัศนคติที่ให้เกียรติคู่ต่อสู้ ความปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงกำลังลุกโชน และความเป็นจริงได้แสดงให้เห็นแล้วว่านักเตะได้เข้าสู่เกมด้วยจิตวิญญาณของนักรบผู้กล้าหาญ มีเหตุผลและสมเหตุสมผล
เกมที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ล่วงหน้า แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราบังคับให้นักเตะทีมชาติไทยต้องคิดใหม่เกี่ยวกับคู่ต่อสู้ เราต้องพิสูจน์สิ่งหนึ่งว่าทีมชาติเวียดนามสามารถทำได้ดีกว่านี้ หากนักเตะทุกคนรู้ว่าจะใช้คุณค่าของตนเองในกลุ่มที่เหนียวแน่น เราบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องจดจำเราและลิ้มรสความท้าทายอย่างมาก เมื่อจิตวิญญาณของเวียดนามได้รับการส่งเสริม และตอนนี้เป็นเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อเขียนเรื่องราวใหม่
สถานะใหม่ ฟุตบอลเวียดนามได้สูญเสียความเชื่อมั่นจากแฟนบอลเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาของโค้ช ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ และนี่เป็นโอกาสทองที่จะเรียกคืนความเชื่อมั่นนั้น
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยครับ