อีกหนึ่งบทบาทของ มาริโอ้ เมาเร่อ กับการโลดแล่นในฐานะนักสะสมของคลาสสิก Classic Collectables ที่มากไปด้วยเรื่องราว และประวัติศาสตร์อันยาวนาน

เป็นเวลากว่า 19 กับบทบาทของ มาริโอ้ เมาเร่อ ในฐานะนักแสดงมากความสามารถ ที่เรียกได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงในดวงใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะในไทย หรือต่างประเทศ แต่นั่นคือหน้าที่ในวงการ แต่สำหรับคุณมาริโอ้แล้ว เขามีหนึ่งมุมของชีวิตส่วนตัว ที่เรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเลยนก็ว่าได้ ซึ่งก็คือบทบาทในฐานะนักสะสม Classic Collectables ผู้ให้ความสำคัญในมูลค่าของวินเทจ หลงใหลในความคลาสสิกอันสง่างาม และเป็นผู้คร่ำวอดในฐานะนักสะสมเรือนเวลา จนได้รับการันตีจากแบรนด์เรือนเวลาชั้นสูง ที่มอบให้เขาเป็น Freind of Longines แห่งประเทศไทย

Back in time

ต้องบอกเลยว่า คุณมาริโอ้ เมาเร่อ ในมุมของการเป็น Classic Collectables (นักสะสมของคลาสสิก) นั้น คือตัวตนอันแท้จริงของเขา ที่เป็นความชอบซึ่งส่งต่อมาจากคุณพ่อ คุณมาริโอ้ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความชอบนี้ว่า “ผมเริ่มชอบขอบสะสมของวินเทจมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ เนื่องจากคุณพ่อของโอ้เองก็เป็นนักสะสมเหมือนกัน แต่คุณพ่อจะเน้นเป็นของตกแต่ง อย่างพวกหนังสือนิตยสารเก่าๆ ซึ่งตอนเด็กๆ โอ้จะชอบไปนั่งอ่านเล่นๆ เราก็จะได้เห็นพวกโฆษณาในยุคนั้น เห็นรถรุ่นเก่า นาฬิการุ่นเก่า ก็เลยสะสมความชอบมาตั้งแต่ตอนนั้นครับ”

ความชอบ และแพชชั่นที่ส่งต่อผ่านคุณพ่อ ทำให้เขามีความชื่นชอบในกลิ่นอายของความคลาสสิก ซึ่งนอกจากของวินเทจต่างๆ แล้ว สิ่งที่คุณมาริโอ้ชื่นชอบ ก็ไม่พ้นนาฬิกา สิ่งเป็นหนึ่งในเครื่องหมายตัวแทน ของการเริ่มต้นสะสม และการเป็นไทม์พีซคอลเล็กเตอร์ของเขา

“ตั้งแต่อยู่ในวงการของสะสมของวินเทจมา ผมว่าสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับผม คือของที่ส่งต่อมาจากคุณพ่อครับ เป็นอะไรที่ผมไม่เคยคิดจะทิ้งเลย อย่างผมมีนาฬิกาเรือนนึงที่ได้มาจากคุณพ่อ ซึ่งจริงๆ แล้ว พ่อเป็นคนไม่ใส่นาฬิกาด้วยซ้ำ และผมเห็นเรือนนี้ก็เก็บทิ้งอยู่ในตู้ หลังจากที่คุณพ่อเสียไป ด้วยความที่ผมคิดถึง ก็เลยไปดูเปิดของคุณพ่อเล่นๆ เลยเห็นนาฬิกาเรือนนี้ที่มันไม่เดินแล้ว ผมเลยเอาไปส่งดูแล แต่ช่างทุกคนที่เห็นเรือนนี้ ทุกคนบอกว่าขอซื้อต่อ ผมก็เพิ่งมาทราบว่ามันเป็นนาฬิกาตั้งแต่ปี 60 ที่คุณพ่อได้มาจากที่ประเทศเยอรมัน นาฬิกาเรือนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ผมสะสมนาฬิกาพวกนาฬิกา และของเกี่ยวกับนาฬิกาวินเทจเลยครับ”

“ผมเคยพูดไว้เลยว่าถ้าในอนาคต ใครอยากขายอะไรของผม ผมไม่ติดเลยครับ แต่ขอเรือนนี้ไว้ ผมอยากส่งต่อให้รุ่นต่อๆ ไปเรื่อยๆ เป็นของล้ำค่าของครอบครัวครับ”

Classic Collectables

เรียกได้ว่า คุณมาริโอ้ มีความหลงใหลในวงการเรือนเวลามาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้เขาได้มีโอกาสคลุกคลีอยู่ในวงการเรือนเวลามานาน และได้ร่วมงานกับแบรนด์เรือนเวลาชั้นสูง เฉกเช่น Longines ที่มีดีเอ็นเอความคลาสสิก ที่สง่างาม ตรงกับตัวของเขาเอง และทำให้เขาได้เริ่มต้นบทบาทในฐานะ Friend of Longines ประเทศไทย

“สิ่งที่ผมประทับใจใน Longines มากๆ คือเรื่องราว และประวัติศาสตร์ของเขาที่มีมาอย่างยาวนานครับ ซึ่งผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมที่โรงงานของทางแบรนด์ และได้เห็นเรือนวินเทจ เรือนเก่าๆ มีทุกคอลเล็กชั่นเลยครับ”

ซึ่งมากไปกว่านั้น ตัวของคุณมาริโอ้เอง ก็เป็นคนที่สะสมนาฬิกาของ Longines อยู่แล้ว HELLO! เอง จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับคุรมาริโอ้ ถึงนาฬิกาที่เขาคิดว่าตอบโจทย์ความเป็นเขาที่สุด คุณมาริโอ้เล่าว่า “เรือนที่ชอบเป็นส่วนตัวคือรุ่น Conquest  Heritage Central Power Reserve ครับ ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นใหม่เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของรุ่นนี้ด้วย ผมชอบความคลาสสิกของเรือนนี้มาก เพราะมีหน้าปัดที่สามารถเข้ากับทุกโอกาส ไม่ว่าจะใส่กับสูท หรือในวันสบายๆ และที่สำคัญเลยเคยสามารถกักเก็บพลังได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมงเลยครับ”

สำหรับเรือนเวลา Conquest  Heritage Central Power Reserve นี้ เรียกได้ว่า ทำมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านักสะสมที่หลงใหลในความคลาสสิกของยุค 50 แต่ตอบโจทย์ในด้านของฟังก์ชั่น และนวัตกรรมอันล้ำสมัย ที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของนาฬิกาลองจินส์นับตั้งแต่มีการสร้างสรรค์จานหมุน (rotating disc)

โดยสำหรับใครที่เป็นคนช่างแต่งตัว เฉกเช่นคุณมาริโอ้ และต้องการเรือนเวลาที่มาแมทช์กับสีโปรด และยังต้องใส่ได้ทุกวัน คอลเล็กชั่นนี้มาพร้อมกับหน้าปัด ที่มีให้เลือกสรรในสามสี คือ สีแชมเปญ, สีแอนธราไซต์ หรือสีดำ โดยมีมาร์คเกอร์ชั่วโมง 12 ตัวที่มีเหลี่ยมมุมในสีเยลโลว์โกลด์, โรสโกลด์ หรือสีเงิน ซึ่งอยู่บนขอบหน้าปัดที่ไม่สามารถหมุนได้ และเพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของคอลเล็กชั่น Conquest

Timepiece Collectors

นาฬิกานั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณมาริโอ้ให้ความสำคัญในการเลือกเป็นอย่างมาก โดยเขาได้มีทริกในการเลือกนาฬิกาที่ค่อนข้างละเอียดเลยทีเดียว

“เวลาผมเลือกนาฬิกา อย่างแรกเลย ผมจะดูที่หน้าปัดก่อนเลยครับ ดูว่าสีที่เราใส่แล้วขึ้นคือสีอะไร และที่สำคัญคือต้องคุมโทนที่ใส่ได้ทุกวันด้วยครับ อย่างสีที่ผมชอบของรุ่น Conquest คือสีแอนธราไซต์ หรือสีเทาครับ เป็นหน้าปัดที่มีลูกเล่นและคุมโทนมาก แต่ก็ทำให้ต้องสังเกตสิ่งต่อมา ซึ่งก็คือเข็มนาฬิกาที่ต้องมองเห็นง่ายครับ อย่างเรือนนี้ก็จะมีเข็มเป็นสีโรสโกลด์ สวยมากเลยครับ เป็นสีที่ทำให้หน้าปัดดูเด่นขึ้นมากๆ และที่สำคัญอีกอย่างคือตัวเรือนที่บาง และมีสายที่เข้ากับหน้าปัด”

“ต่อมาคือเครื่องและฟังก์ชั่น ที่ต่อให้นาฬิกาจะดูวินเทจ แต่เรื่องฟังก์ชั่นต้องครบ และตอบโจทย์ครับ อย่างเรือนนี้ที่รีเสิร์ฟพลังงานได้ 70 กว่าชั่วโมงนี่ชอบมากๆ ครับ และอย่างสุดท้ายคือเม็ดมะยม เป็นดีเทลเล็กๆ ที่ทำให้นาฬิกาออกมาสวยงาม อย่างเรือน Conquest เขาจะมีสลักลายลองจินส์ด้วย ดูวินเทจมากๆ เลยครับ”