“สงกรานต์” เล่านาที “มายด์ ณภศศิ” ป๊ะหน้า “แอฟ ทักษอร” ลั่นครึกครื้น อบอุ่น ยกมือไหว้ขอบคุณโซเชียล โล่งใจไม่มีคนด่า บอกมายด์แคร์ความรู้สึกทุกคน ปีหน้าแพลนเรื่องงาน จะไลฟ์จริงจังขึ้น แจงรวยยังต้องทำงานเพราะเพลิน เพราะยุคนี้เป็นยุคติ๊กต๊อก
แม้จุดเริ่มต้นจะถูกหวานใจ “มายด์ ณภศศิ สุรวรรณ” บังคับให้ทำคลิปลงแอปฯ ติ๊กต๊อก แต่ถึงตอนนี้ “สงกรานต์ เตชะณรงค์” ก็หลงรักงานที่ทำผ่านติ๊กต๊อกไปแล้ว โดยเผยระหว่างมาร่วมงานเปิดร้าน See’s Candies (ซีส์ แคนดีส์) แบรนด์ช็อกโกแลตอันดับ 1
จากสหรัฐอเมริกา ชั้น G บริเวณหน้า กูร์เมต์ มาร์เก็ต ศูนย์การค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ ลั่นมายด์เข้ามาเปลี่ยนชีวิตตน ทำให้สนุก พร้อมแจงกรณีที่มายด์เจอหน้า “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ”
อดีตภรรยา ในงานวันเกิด “ไพวงษ์ เตชะณรงค์” รวมทั้งได้พบหน้าครบองค์ประชุมครั้งแรก
“ที่บอกว่าเป็นดาวติ๊กต๊อกไปแล้ว ภาคบังคับครับ พอดีน้องมายด์เขาชอบทำติ๊กต๊อก เขาเป็นอินฟูลฯ เดี๋ยวนี้สายอินฟูลฯ เขาก็ย้ายมาอยู่ติ๊กต๊อกกันหมดแล้ว
เขาก็เลยชวนผมมาเอ็นจอยกับเขาด้วย ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญเท่าไหร่ แต่ถามว่ากล้าขึ้นไหมก็กล้าขึ้นเยอะ ถ้าแต่ก่อนไม่เอาเลย กลัว เดี๋ยวนี้เริ่มได้แล้ว
ที่มองว่าเป็นเบสท์เวอร์ชั่นของผม ก็ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้าคอมเมนต์ มากดไลก์ ก็แปลกใจเหมือนกันเพราะว่ามันมีคอมเมนต์ที่โพสิทีฟเยอะมากๆ เราเองไม่ได้ชำนาญทางนี้ แต่ได้รับคอมเมนต์ดีๆ
มันก็เป็นโบนัสจากสิ่งที่เราทำไปแล้วมีฟิดแบ็กที่ดีกลับมา แต่ก่อนคนจะคิดว่าผมเป็นคนขรึมๆ แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้ขรึม ผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าพูดมากกว่า แต่ถ้าอยู่ที่บ้านหรือกับคนสนิท คาแรกเตอร์ก็จะเป็นคนขี้เล่นนิดนึง”
ตัวจริงเหมือนในติ๊กต๊อกครึ่งๆ ลั่นสนุก เขาเข้ามาเปลี่ยนชีวิต
“กลางๆ ครึ่งๆๆ อย่างละครึ่ง ด้วยความที่เขาถ่ายบ่อยจนเราซึมซับไปเรื่อยๆ จนผมสามารถทำออกมาเองได้ (เขาเปลี่ยนชีวิตเรา?) ก็สนุกดี ก็เพลินดีครับ ตอนนี้ก็ใช้การตัดต่อช่วย ก็ใช้โปรแกรมในมือถือนี่แหละ 1
คลิปที่ผมทำใช้เวลาประมาณ3-4 วัน ผมทำเองทั้งใส่เสียง ตัดต่อ ซึ่งมันไม่ใช่ทางของเราไง มันเลยใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าเป็นน้อง 1 วันเขาทำได้ 2-3 คลิป คอนเทนต์เราก็ช่วยๆ กันคิด นั่งประชุมช่วยกันตัดสินใจ แบบนี้คนจะชอบไหมหรือว่าแบบนั้น
ภาพแบบนี้เวิร์กไหม ดูแล้วเบื่อไหม ฟีดแบ็กกันไปมา ในทีมมีกัน 4 คน รวมผมกับน้องด้วย เวลาลงเสียงผมต้องมีสคริปต์นิดนึง ผมยังไม่โปรขนาดนั้น ต้องคิดก่อนแล้วค่อยๆ เขียน ค่อยๆ พูด แล้วก็เอาไปตัด”
เต็มที่ เพราะเป็นยุคติ๊กต๊อก
“ก็เต็มที่ครับ ก็เป็นยุคติ๊กต๊อก ก็ดีใจครับที่ฟิตแบคดี มีคนมาชมเราเราต้องดีใจอยู่แล้ว มีคนมากดไลก์ มาติดตาม หลายคนมาอุดหนุนสินค้าน้องมายด์กันเยอะเลย เราก็ทำไปเรื่อยๆ แบบนี่แหละครับ เราเน้นขายคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณเยอะๆ เน้นให้คนเอาไปใช้ในราคาที่จับต้องได้ แล้วกลับมาซื้อซ้ำ แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ แฮปปี้แล้ว
เรื่องละลายพฤติกรรม มันต้องใช้เวลาอย่างเดียวเลยครับ ค่อยๆ ทำไป ค่อยๆ ปรับไป เอาจริงๆ สำหรับผมมันก็เป็นสิ่งที่ยากเหมือนกันนะ ด้วยผมเป็นคนที่ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก กว่าจะมาเป็นแบบนี้ได้ แล้วที่สำคัญลงโซเชียลไปถ่ายข้างนอก
ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่วันนี้ผมยืนยัน ถ้าผมทำได้ ทุกคนก็ทำได้เหมือนกันครับ ไม่ถึงขนาดรับตำแหน่งดาวติ๊กต๊อก ผมเบสิกอยู่เลยครับ คนเก่งกว่าผมมีเยอะมาก ยอมรับเลยว่าเด็กสมัยนี้เก่งมาก”
“มายด์” เจอ “แอฟ ทักษอร” น่ารัก ครึกครื้นและอบอุ่น แคร์ความรู้สึกทุกคน
“ก็น่ารักดี วันนั้นเป็นวันเกิดคุณพ่อ คนในครอบครัว ญาติพี่น้องก็จะมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายอยู่แล้ว วันนั้นก็มีมายด์มา มีพี่แอฟมา หลายๆ คนมา ก็ครึกครึ้น อบอุ่นดีครับ พูดตรงๆ ทุกคนก็คือครอบครัว
ต่อให้วันนึงเรามีปัญหาอะไรกัน หรือความเห็นไม่ตรงกันแต่สักวันนึงเราก็ต้องกลับมาจอยกัน ถูกไหมครับ หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ผมว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมันก็เป็นกันเกือบทุกครอบครัวอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ครอบครัวผมครอบครัวเดียว
เป็นครั้งแรกที่มายด์ไปเจอครอบครัวเราแบบพร้อมหน้า และมีพี่แอฟด้วย เพิ่งเคยเจอกัน มายด์เขาเป็นคนที่เขากับคนง่ายอยู่แล้วโดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ จริงๆ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับที่บ้านผม เจอกันมาหลายทีแล้วแต่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เจอแบบฟูลแบบนั้น คอมเมนต์ค่อนข้างไปทางโพซิทีฟ ทุกอย่างโอเค เขาก็แฮปปี้
เพราะมายด์เป็นคนที่ค่อนข้างแคร์ความรู้สึก แคร์คอมเมนต์มาก แต่ครั้งนี้ดูแล้วเขาดูแฮปปี้ ขอบคุณมากๆ ครับ(ยกมือไหว้) สำหรับคนที่ชื่นชม ถามว่าโล่งใจไหมฟีดบ็กดีครับ ถ้าครอบครัวเราแฮปปี้ คนรอบข้างแฮปปี้ พี่ๆ เพื่อนๆ ในโซเชียลแฮปปี้มันก็โอเค มันก็โล่งใจ เพราะจริงๆแล้วทุกคนก็คอนเน็กกันหมด
คุณลุง ก็ดีนะ ถ้าใครที่เจอผมจะรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนที่เข้าถึงง่าย เข้ามาคุยกันได้ เขาอาจจะติดภาพผมนิ่ง พอเขาเห็นเราในติ๊กต๊อกก็เลยเปิดใจกับเรากันเยอะขึ้น”
แพลนกับมายด์เรื่องงาน ปีหน้าโฟกัสไลฟ์จริงจังขึ้น
“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องงานเป็นหลักกันก่อน ตอนนี้เราทำสินค้าด้วยกันหลายตัวมาก ปีหน้าก็จะโฟกัสไปทางไลฟ์จริงจัง ส่วนมากทุกวันนี้ที่คุยกัน ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องงานเป็นหลัก ผมก็ต้องไลฟ์ด้วย เพราะบางทีผมไม่ไลฟ์ด้วยเขาจะเริ่มหงุดหงิด
งอน เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมอู้ไง เอาเปรียบไง เดี๋ยวเขาจะมองอย่างนี้ไป การไลฟ์สดนี่ยากมากครับ คุยคนเดียวเป็นชั่วโมงอยากเหมือนกันนะ ล่าสุดเมื่อ 2 วันที่แล้วผมไปไลฟ์ของแอปฯ นึง ทุกทีผมจะมีมายด์ไปไลฟ์ด้วย มันก็จะง่ายเพราะมีคนช่วยกันส่ง ช่วงไหนเราเงียบก็มีคนช่วยพูดต่อ แต่พอผมต้องไปพูดคนเดียว
วันนั้นมันก็คือยากมากๆ เลย เหนื่อยมากๆ เหนื่อยจริง วันรุ่งขึ้นตื่นมาเจ็บคอ ร่างกายล้า เหมือนเป็นอะไรสักอย่าง คือการไลฟ์มันใช้พลังเยอะจริงๆ พอมาคิดอ๋อ วันนั้นเราไปไลฟ์มา”
รวยขนาดนี้ยังต้องทำงานเพราะเพลิน สร้างความเชื่อใจให้ลูกค้า
“มันก็เพลินดีนะ ทำๆ ไปแล้วมันก็สนุก มันเป็นอะไรที่นักธุรกิจทุกคนต้องทำ เหมือนมันเป็นยุคของมัน มันเป็นอีกช่องทางนึงที่มันมา แล้วกระแสมันเยอะขึ้นเรื่องๆ ทุกเดือน ทุกปี ทุกวัน ผมว่าธุรกิจไลฟ์มันมีโอกาสที่จะโตขึ้นอีกมากๆ เลยครับ
ซึ่งเราจะได้ในเรื่องของความน่าเชื่อถือ บางคนเขาอาจจะยังกลัวคิดว่าจ่ายเงินออนไลน์ไปแล้วจะไม่ได้ของ เขาเห็นเราเขาอาจจะเชื่อใจได้ว่ามันจะไม่เบี้ยวของนะอะไรแบบนี้”