ประวัติ “เบลล่า – ราณี แคมเปน” นางเอกสายบุญขวัญใจชาวไทย งานละครชุก โฆษณา-พรีเซนเตอร์แน่นตลอดปี!
หากพูดถึงนางเอกเบอร์ต้น ๆ ของไทยเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีชื่อของ “เบลล่า – ราณี แคมเปน” อยู่ในใจอย่างแน่นอน เพราะเป็นนางเอกที่ดังข้ามปีจากการเล่นละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” โกยงาน โกยเงินฉ่ำ!
อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกสายบุญที่ทุ่มเงินหลักล้านอีกด้วย แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย “เบลล่า” ต้องผ่านการแคสงานมาหลากหลายกว่าจะเข้าตาจนได้เซ็นสัญญากับช่องดัง
รู้จัก “เบลล่า ราณี”
“เบลล่า – ราณี แคมเปน” ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เกิดวันที่ 24 ธ.ค.2532 ปัจจุบันอายุ 34 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสารวิทยา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ก่อนเข้าวงการ เคยทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานร้านไอศกรีมดังในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพราะต้องการแบ่งเบาภาระด้านการเงินของที่บ้านเนื่องจากช่วงนั้นเศรษฐกิจทางบ้านไม่ค่อยดี ทำให้เป็นคนที่รู้ถึงคุณค่าในการใช้จ่ายเงินและใช้เงินด้วยความประหยัดตั้งแต่นั้นมา
ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง
“เบลล่า” เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการแคสติ้งงานต่างๆ จนกระทั่งไปเข้าตาช่อง 3 และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด โดยได้รับโอกาสในการแสดงครั้งแรกผ่านการเล่นละครเป็นนางร้ายเรื่อง “รอยมาร” ในบทบาท “เมธาวี” ออกอากาศในปีพ.ศ.2554
หลังจากนั้นก็มีผลงานละครตามมาอีกหลายเรื่อง อาทิ ตะวันยอดรัก(2555) และ พรพรหมอลเวง(2556) แต่เรื่องที่ถือว่าแจ้งเกิดบทบาทนางเอกสู่สายตาคนทั่วไปและสร้างชื่อให้เธอเป็นอย่างมากคือละครชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” โดยรับบทนางเอกชื่อว่า “กรองแก้ว” ในตอนของ คุณชายพุฒิภัทร(2556) ที่แจ้งเกิดชั่วข้ามคืนกลายเป็นคู่ขวัญกับหนุ่ม “เจมส์ จิรายุ” มีแฟนคลับ “จิราณี” ทั่วบ้านทั่วเมือง
หลังจากนั้นก็มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่องทั้งละครและภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น ลูกทาส(2557), ปดิวรัดา(2559), เพลิงบุญ(2560), กรงกรรม(2562), อีเรียมซิ่ง(2563), บุพเพสันนิวาส 2(2565)
แต่ผลงานมาสเตอร์พีชสร้างชื่อตลอดชีวิตการทำงานด้านบันเทิง คือละคร “บุพเพสันนิวาส” ในบทบาท “แม่หญิงการะเกด/เกศสุรางค์” ออกอากาศในปี 2561 กระแสฟีเวอร์ โกยเรตติ้งถล่มทลาย สร้างปรากฎการณ์ “แม่นายเบลล่า” ดังข้ามปี
และส่งผลให้มีทั้งงานโฆษณา งานพรีเซนเตอร์เข้ามาอีกนับไม่ถ้วน แถมยังปลุกกระแสการใส่ชุดไทยเที่ยววัดให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติต่างทำตามอีกด้วย และละครบุพเพสันนิวาสยังได้รับการต่อยอดมาเป็นภาพยนตร์ “บุพเพสันนิวาส 2” เข้าฉายในปีพ.ศ.2565 รวมไปถึงละครภาคต่อ “พรหมลิขิต” ที่กระแสปังสุดๆ รวมไปถึงกระแสจิ้นกับ “โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” ก็ไม่แผ่ว จนลุ้นให้เป็นคู่จริง แต่ทั้งคู่ก็ปักสเตตัสพี่น้องเท่านั้น
สำหรับผลงานล่าสุดของเบลล่าก็คือละครเรื่อง “เจ้าคุณพี่กับอีคำนางคำดวง” เป็นการโคจรกลับมาเล่นคู่กับคู่จิ้นในตำนาน “เจมส์ จิรายุ” อีกครั้ง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างถ่ายทำ (24 เม.ย.67)
นางเอกสายบุญ
นอกจากจะเป็นสาวที่มีความประหยัดในการใช้เงินมาตั้งแต่เด็ก และเป็นอีกหนึ่งนางเอกแนวหน้าของวงการบันเทิงไทยแล้ว “เบลล่า” ยังขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอกสายบุญอีกด้วย เพราะในทุกๆ ปีเจ้าตัวมักจะหาเวลาไปเข้าวัดทำบุญอยู่บ่อยครั้ง และแต่ครั้งมักจะลงแรงและลงเงินส่วนตัวเป็นจำนวนมากไปกับการทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเงินส่วนตัวมากถึง 2.5 ล้านบาท เพื่อช่วยโรงพยาบาล 5 แห่ง และทำโรงทานเลี้ยงเพลพระสงฆ์ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยอีก 600 ชิ้นที่วัดพระยาสุเรนทร์ในช่วงเกิดโควิด19 หรือการหอบเงินล้านเพื่อไปทำบุญยกช่อฟ้าที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่
และล่าสุดช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ควงแม่ไปทำบุญปล่อยปลาหน้าเขียงทุกชนิดเป็นจำนวน 1 ตัน (1000 กิโลกรัม) ที่วัดคันธาราม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เรียกว่านอกจากจะเป็นนางเอกที่สวย แสดงเก่งและยังเป็นนางเอกที่ใจบุญมากอีกด้วย
สเตตัสหัวใจ
หลังจากเลิกรากับ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” นางเอกคนดังก็เนื้อหอมสุดๆ มีข่าวแว่วว่าถูกหนุ่มตามจีบเพียบ แต่เจ้าตัวก็ขอพักหัวใจวางเรื่องรักไว้ก่อน มุ่งลุยงานในวงการและลุยทำธุรกิจส่วนตัว
แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า หนุ่มตี๋โปรไฟล์ดีทายาทตะกูลดัง “วิล–ชวิณ เจียรวนนท์” จะมาเข้าวินเป็นเจ้าของหัวใจของ “เบลล่า” หรือเปล่า หลังมีภาพทั้งคู่ร่วมเฟรมใกล้ชิดกันออกมา แถมแฟนๆ ยังเชียร์ ยังลุ้น ให้เป็นตัวจริงของใจ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คนนี้แหละใช่เลย’
งานนี้คงต้องรอฟังคำตอบจากปากเจ้าตัวเองว่าตกลงแล้ว “โสด” หรือ “ไม่โสด” กันแน่!?!
